
5 เคล็ดลับระดับโปร : ให้ชนะ 3-Bet Pots ทุกครั้ง
วิธีเอาตัวรอดเมื่อคุณ Call การ 3-Bet แล้วต้องเล่นในสถานการณ์เสียเปรียบ
รับมือสถานการณ์ 3-Bet Pot อย่างมือโปร
หนึ่งในสถานการณ์ที่ผู้เล่นโป๊กเกอร์ต้องพบเจอบ่อย โดยเฉพาะในรอบลึกของทัวร์นาเมนต์ ก็คือเมื่อคุณเป็นฝ่าย Open-Raise แล้วมีผู้เล่นคนหนึ่ง Re-raise หรือที่เรียกว่า 3-Bet ใส่คุณ
ผู้เล่นคนอื่นหมอบหมด และคุณตัดสินใจ Call เพื่อไปต่อที่ Flop ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่ท้าทาย เพราะคุณไม่ได้เปรียบทั้งในแง่ของ Range และ Position
บทความนี้จะพาคุณไปดู 5 กลยุทธ์สำคัญ ที่จะช่วยให้คุณเล่นอย่างชาญฉลาดใน 3-Bet Pot แม้จะอยู่ในตำแหน่งเสียเปรียบก็ตาม
1. Call บ่อยขึ้นเมื่ออยู่ในตำแหน่ง (In Position) บนบอร์ดที่เชื่อมโยงกัน
เมื่อคุณอยู่ในตำแหน่ง เช่น Call 3-Bet จาก Cutoff แล้วเจอ Big Blind เป็นคน 3-Bet กลับมา ถ้าบอร์ด Flop เปิดมาเชื่อมโยงกัน เช่น 8♥ 7♥ 3♣ คุณควร Call C-Bet บ่อยขึ้น เพราะบอร์ดนี้เข้ากับ Range ของคุณมากกว่าคู่ต่อสู้
ตัวอย่าง: คุณถือ Q♣ J♣ มี Overcard + Backdoor Draw ทั้ง Flush และ Straight ควร Call แล้วพิจารณา Bluff หาก Turn เปิดไพ่ที่เหมาะสม เช่น 6♦ แล้วคู่ต่อสู้ Check
2. Slow-Play เมื่อคุณมีไพ่สุดแกร่ง และได้เปรียบในตำแหน่ง
ใน 3-Bet Pot ค่า SPR (Stack-to-Pot Ratio) จะต่ำ ซึ่งหมายถึง Pot โตเร็ว ถ้าคุณมีไพ่ที่แกร่ง เช่น Set หรือ Two Pair ในตำแหน่งที่ได้เปรียบ ไม่จำเป็นต้องรีบ Raise ตั้งแต่ Flop
ตัวอย่าง: คุณมี 7♠ 7♦ บนบอร์ด 8♥ 7♥ 3♣ ควรแค่ Call เพื่อให้คู่ต่อสู้ Bet ต่อใน Turn หรือ River ซึ่งจะเพิ่มโอกาสทำกำไรสูงสุด และปกป้อง Range Call ของคุณด้วย
3. Defend กว้างขึ้นเมื่อคู่ต่อสู้ใช้ Bet Size เล็ก
หากคู่ต่อสู้ C-Bet เล็ก เช่น 2BB ใน Pot ขนาด 14BB นั่นหมายถึงคุณได้รับ Pot Odds ที่ดีมาก คุณควร Call ด้วยไพ่ที่มี Backdoor Draw หรือความเป็นไปได้พัฒนามือ เช่น Overcard + Backdoor Flush หรือ Gutshot
กลยุทธ์เสริม: หากบอร์ดไม่อันตรายมาก และเขา Bet เล็ก คุณสามารถ Raise กลับเพื่อกดดัน Range กลางๆ อย่าง A9, KJ ได้ทันที
4. Check-Raise แบบ Polarized เมื่อคุณอยู่ในตำแหน่งเสียเปรียบ
หากคุณต้องเล่น Out of Position หลังจาก Call การ 3-Bet หนึ่งในกลยุทธ์ที่ดีคือ Check-Raise ด้วย Range ที่แบ่งออกเป็น:
- มือแกร่ง เช่น Top Pair + Top Kicker, Overpair, Two Pair
- มือที่ไม่มี Showdown Value แต่มี Equity เช่น Nut Flush Draw, Strong Draws
ประโยชน์: ทำให้คู่ต่อสู้เดาทางยาก และคุณอาจชนะ Pot ได้ทันทีหากอีกฝ่ายหมอบ
5. ยอมแพ้เมื่อไม่มีอะไรเลย + อยู่ในตำแหน่งเสียเปรียบ
หาก Flop ไม่เป็นใจ เช่น ไม่มี Draw, ไม่มี Pair และอยู่ Out of Position — อย่าฝืน Call หรือ Bluff โดยไม่มีเหตุผล
ตัวอย่าง: คุณถือ 9♣ 8♣ แล้ว Flop มาเป็น K♠ Q♥ J♣ คุณมีแค่ Gutshot กับ Backdoor Flush Draw แต่บอร์ดนี้เข้ากับ Range ของคู่ต่อสู้โดยตรง โอกาสที่คุณจะติดและยังชนะก็น้อยมาก ควร Check แล้วหมอบ
สรุป: เปลี่ยนจากเสียเปรียบให้เป็นควบคุมเกม
การ Call การ 3-Bet แล้วไปเล่นต่อไม่ใช่จุดที่คุณได้เปรียบ แต่ถ้าคุณมีแผนและเข้าใจตำแหน่ง + Range ของตัวเอง กลยุทธ์ 5 ข้อนี้จะช่วยให้คุณรับมือกับสถานการณ์ยาก ๆ ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
สรุปกลยุทธ์:
✅ Call มากขึ้นเมื่อมีตำแหน่งและบอร์ดเชื่อมกัน
✅ Slow Play มือแกร่งเพื่อดึง Value จากตำแหน่ง
✅ Defend กว้างขึ้นหากเจอ Bet เล็ก
✅ Check-Raise ด้วย Range แบบ Polarized
✅ Fold อย่างมีวินัยเมื่อไม่มี Equity และเสียเปรียบตำแหน่ง