สัญญาณที่ 1: สามารถทำกำไรได้สูงสุด ทุกรอบการเล่น Post-Flop (Flop-Turn-River) กับผู้เล่นที่อ่อนแอ หรือ Fish

หนึ่งในสัญญาณสำคัญของผู้เล่นโป๊กเกอร์มืออาชีพก็คือการดึงมูลค่าสูงสุดที่สามารถจะได้รับ กับผู้เล่นทั่วไปที่เล่นโป๊กเกอร์เพื่อความบัญเทิง หรือ ที่เรียกกันว่า “Fish” ลองนึกภาพว่าคุณ Open Raise ด้วยไพ่ A♥J♣ และ ผู้เล่นคนนั้น Call นั่นคือผู้เล่น ที่เล่นไพ่มากกว่า 50% ของไพ่ทั้งหมดที่แจกให้ พวกเขาเล่นเพื่อความสนุก มักจะเล่นแค่ในช่วงสุดสัปดาห์ อาจจะดื่มเบียร์และเล่นไปพร้อมๆกัน เป็นต้น พวกเขาไม่ได้จริงจังกับเกมมากเท่ากับที่คุณทำ พวกเขาดูคลิปวิดีโอทาง Youtube และเล่นตามผู้เล่นมืออาชีพ

ไพ่ที่ Flop เปิดออกมาเป็น J♥8♠5♠ คุณ C-Bet และ เขา Call ซึ่งถือว่าค่อนข้างมาตรฐานจนถึงตอนนี้ ด้วย Top-Pair/Top-Kicker บนบอร์ดที่ค่อนข้างเชื่อมโยงกัน (เช่น 9T,67 ที่สามารถลุ้น Open-End Straight Draw) แผนการเล่นที่นี่จึงถือเป็นจุดสำคัญ ผู้เล่นโป๊กเกอร์มืออาชีพไม่เคยทิ้งเงินบนโต๊ะ และ ทำกำไรอย่างสม่ำเสมอจากสถานการณ์เหล่านี้ นี่คือสิ่งที่ทำให้พวกเขาแตกต่าง

โปรดจำไว้ว่าผู้เล่นคนนี้เป็นผู้เล่นที่มักจะเล่นไพ่มากถึง 50% ของไพ่ทั้งหมดที่แจกให้ ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถมีไพ่อย่าง JT,J9,J7,J6 หรือแม้แต่ J4 ได้ พวกเขาอาจมีไพ่ อย่างเช่น A8, K8, Q8, A5, 87, 56 หรือ 53 และอีกมากมาย ดังนั้นคุณจึงอยาก Bet เพิ่มสร้างขนาดของ Pot และทำกำไรให้สูงที่สุด

ไพ่ที่ Turn เปิดออกมาเป็น 3♥ ซึ่งเป็นไพ่ที่ไม่อันตรายเลย ซึ่งเราเรียกว่าไพ่ Brick คุณจึง Bet ในการเล่นที่นี่อีกครั้งแน่นอน ไพ่ใบนี้ไม่ได้ทำให้มีการ Complete ใดๆ

ไพ่ที่ River เปิดออกมาเป็น K♥ ถึงตรงนี้ ผู้เล่นหลายคนสับสนและลังเลใจ คิดว่า “เราคงไม่ชนะในการเล่นนี้แล้ว” แต่ตามที่เราได้ศึกษาผ่านๆ มา ข้อผิดพลาดสำคัญที่สุด นั่นก็คือการกำหนดโดยเฉพาะเจาะจงว่าคู่ต่อสู้ควรจะมีไพ่ใบใดใบหนึ่ง มากกว่าจะมองเป็น Range แน่นอนว่า เขามีโอกาสที่จะถือ K ในการเล่นที่ River

แต่พวกคุณจำไพ่ทั้งหมดที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ได้ไหม ไม่ว่าจะเป็นไพ่ Draw ต่างๆที่ไม่ติด ไพ่ Top-Pair ที่มี Kicker แย่กว่าคุณ อย่างเช่น JT,J9,J8,A8 และ 56 ไพ่ของคู่ต่อสู้เหล่านี้ยังคงจะตามเรามาเล่นที่ River ดังนั้นการหยุด Bet และ เปลี่ยนมาเป็น Check จึงเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อเปรียบเทียบกับผู้เล่นประเภทนี้ที่มีแนวโน้มที่จะ Call กับไพ่เหล่านั้นทุกสถานการณ์ คุณไม่ควรทิ้งเงินไว้บนโต๊ะ พยายามทำกำไรให้ได้ 3-Street เดิมพันที่ Flop,Turn และ River กับ Fish แล้วคุณจะประสบความสำเร็จมากขึ้น

สัญญาณที่ 2: การอ่านไพ่ (การวิเคราะห์ Range)

คุณถือ A♥K♠ อยู่ในตำแหน่งแรกๆในการเล่น (Early Position) และมีผู้เล่นที่มีการเล่นอย่างรัดกุม (Tight Player) จากตำแหน่ง Button Call
เราสามารถ คาดเดา Range ของคู่ต่อสู้ มีมีแผนการเล่นรัดกุม (Tight) ได้ดังนี้

1. ไพ่คู่ขนาดเล็กถึงกลาง: เช่น JJ ถึง 22
2. ไพ่บรอดเวย์ที่แข็งแรง: เช่น AQ, AJ, AT, KQ, KJ, QJ
3. ไพ่ Suited Connectors: เช่น T♥9♥, 9♠8♠

ไพ่ที่ไม่น่าจะมีใน Range ของผู้เล่นนี้

ไพ่ที่แข็งแกร่งมาก เช่น AA,KK,QQ และ AK เพราะผู้เล่น Tight มักจะ Re-Raise (3-Bet) Pre-flop หากถือไพ่เหล่านี้

หลักการอ่านไพ่ (Hand Reading)

• การอ่านไพ่ของผู้เล่นระดับโปรไม่ได้เจาะจงแค่ไพ่ใบใดใบหนึ่ง แต่จะวิเคราะห์ Range ของไพ่ที่เป็นไปได้
• เมื่อผู้เล่น Tight เพียงแค่ Call แทนที่จะ Re-raise จะช่วยให้เราสามารถตัดไพ่ที่แข็งแกร่งมากๆออกจาก Range ของพวกเขา
• เมื่อเกมดำเนินต่อไป เราจะใช้แผนการเล่นที่คู่ต่อสู้ตัดสินใจในแต่ละรอบเพื่อลดความกว้างของ Range ให้แคบลง

นี่คือตัวอย่างวิธีที่ผู้เล่นโป๊กเกอร์ระดับมืออาชีพวิเคราะห์และอ่านสถานการณ์ในเกม!

สัญญาณที่ 3: ไม่มีอารมณ์ กับ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น จากผลการเล่น

โป๊กเกอร์เปรียบได้กับการเล่นกีฬา เช่น สนุ๊กเกอร์ ซึ่งผู้เล่นระดับมืออาชีพมักพูดเสมอว่า “อย่าดีใจเกินไปเมื่อชนะ และอย่าเสียใจเกินไปเมื่อแพ้”
ในโป๊กเกอร์ก็เช่นกัน:

• วันแรก: ชนะ $500 – ไม่ต้องตื่นเต้น
• วันที่สอง: แพ้ $300 – ไม่ต้องเสียใจ
• วันที่สาม: แพ้ $400 – ไม่ต้องวิตก
• วันที่สี่: ชนะ $1,000 – ไม่ต้องฉลอง
• วันที่ห้า: ชนะ $200 – ก็แค่วันธรรมดา

ผู้เล่นโป๊กเกอร์มืออาชีพรู้จักควบคุมอารมณ์ ไม่ปล่อยให้ชัยชนะหรือความพ่ายแพ้มากระทบจิตใจ โดยเฉพาะขณะที่กำลังเล่น เพราะเข้าใจดีว่าในระยะยาวจะมีทั้งวันที่ชนะและวันที่แพ้

การมีวันที่ชนะมากกว่าวันที่แพ้ และการรับมือกับเกมที่เหมือนรถไฟเหาะนี้อย่างมั่นคง คือความสำเร็จในระยะยาว

สัญญาณที่ 4: โจมตีผู้เล่นที่อ่อนแอ

สัญญาณข้อที่สี่ที่บอกว่าคุณกำลังเจอกับผู้เล่นมืออาชีพในโป๊กเกอร์ นั่นก็คือ พวกเขาจะมุ่งโจมตีผู้เล่น ที่อ่อนแอและมีการเล่นอย่างระมัดระวังมากเกินไป

• เป้าหมาย: โจมตีผู้เล่นที่มักจะหมอบมากจนเกินไป โดยเฉพาะผู้เล่นที่ไม่พร้อมเสี่ยงหากไม่มีไพ่ที่แข็งแกร่งจริง ๆ
• กลยุทธ์: ใช้การ 3-Bet ด้วยขนาดเล็กๆ (light 3-Bet) ในการเล่นรอบ Pre-Flop ด้วยไพ่ที่มีศักยภาพหลังฟล็อป เช่น 98s,87s ไพ่ลักษณะนี้สามารถพัฒนาเป็น Straight, Flush, Two Pair, Trips และอื่น ๆ ที่เอาชนะไพ่คู่ใหญ่ได้

วิธีระบุผู้เล่นอ่อนแอ:

• ออนไลน์: ใช้ HUD (โดยเฉพาะที่ N8) มองหาผู้เล่นที่มีอัตราการหมอบเมื่อถูก 3-Bet เกิน 70%
• เล่นสด: มองหาผู้เล่นที่เน้นเล่นด้วยความปลอดภัยและไม่เสี่ยงมากเกินไป

หากคุณต้องการพัฒนาฝีมือให้ก้าวขึ้นไปเป็นผู้เล่นมืออาชีพ คุณต้องรู้จักระบุผู้เล่นที่อ่อนแอและกดดันพวกเขาในทุกสถานการณ์ ทั้งการเล่นในรอบ Pre-Flop,Flop,Turn,River

สัญญาณที่ 5: ให้ความสำคัญกับตำแหน่งในการเล่น

ผู้เล่นมืออาชีพให้ความสำคัญกับตำแหน่งที่ได้เปรียบในการเล่นโป๊กเกอร์
ให้ความสำคัญกับตำแหน่งในการเล่นโดยเฉพาะ

• Button: ตำแหน่งของ Dealer
• Cutoff: ตำแหน่งที่อยู่ทางขวาของ Button

เหตุผลที่สองตำแหน่งนี้ได้เปรียบเนื่องจากเป็นสองตำแหน่งที่ได้ เล่นเป็นคนสุดท้ายในการเล่น Post-Flop ที่ Flop, Turn, และ River ทำให้สามารถ สังเกตการเล่นของคู่แข่งก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ เพิ่มโอกาสในการ Value bet หรือ Bluff หรือ สามารถหมอบเพื่อประหยัดชิปได้หากคิดว่าไพ่ไม่ชนะ

ผู้เล่นมืออาชีพส่วนใหญ่จะพยายามเล่นจากสองตำแหน่งนี้ เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่สร้างกำไรได้มากที่สุดในเกม หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับไพ่ที่ควรเล่นในแต่ละตำแหน่ง สามารถศึกษาได้จาก เวปไซต์ N8TH ของเรา ที่มีแผนภาพ และคำแนะนำโดยละเอียดสำหรับการเล่นในแต่ละตำแหน่ง

สัญญาณที่ 6: เพียงแค่ Call กับผู้เล่นที่ดุดัน (Aggressive)

ผู้เล่นโป๊กเกอร์มือใหม่หลายคนทำผิดพลาดและมักเกิดอารมณ์ หงุดหงิดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้เล่นที่ดุดัน และพยายามที่จะแก้แค้นเอาคืนอยู่ตลอดเวลา

ข้อผิดพลาดที่ผู้เล่นทั่วไปมักทำคือการพยายามสู้กลับ ด้วยการลักไก่กลับไป

ซึ่งนั่นไม่ใช่กลยุทธ์ที่ถูกต้อง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้เล่นที่เล่นอย่างดุดัน คุณควรจะ Call โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบ (จำไว้ว่านั่นคือตำแหน่ง Cutoff และ Button) คุณจะเอาชนะพวกเขาในการเล่น Post-Flop และ ให้พวกเขาทำในสิ่งชอบทำ นั่นก็คือเล่นอย่างดุดันต่อไป

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณถือ 99 ที่ตำแหน่ง BTN และเขา Raise ในการเล่น Pre-Flop ที่คุณควรทำคือ Call ซึ่งหากคุณ 3-Bet นั่นหมายความว่าคุณเปิดโอกาสให้เขา 4-Bet และทำให้คุณอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก คุณต้องเสี่ยงชิปจำนวนมากด้วยไพ่ที่ดีแต่ยังไม่ใช่ไพ่ที่ดีที่สุด

ดังนั้น ตัวเลือกที่ทำกำไรได้มากกว่าในที่นี้ คือ Call โดยเฉพาะเมื่อคุณอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบ ดูไพ่ที่กำลังจะเปิดขึ้นที่บอร์ด และ พยายามเอาชนะคู่ต่อสู้ เปิดโอกาสให้พวกเขาลักไก่ และ ทำกำไรให้สูงที่สุดเมื่อคุณมีไพ่ที่แข็งแกร่งกว่า

สัญญาณที่ 7 : มุ่งมั่นสู่ความสำเร็จ

ผู้เล่นโป๊กเกอร์มืออาชีพจะจินตนาการถึงความสำเร็จของตนเอง และ มุ่งมั่นทำให้เป็นจริง คุณจึงควรจะทำเช่นเดียวกันโดยการ นำกราฟแผนการเล่นโป๊กเกอร์ของผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จมาติดไว้เพื่อให้คุณคอยตระหนักถึงเป้าหมายในระยะยาว ซึ่งจะทำให้คุณมีสมาธิ และ จินตนาการถึงความสำเร็จได้

อีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยได้มากคือ การเรียนรู้ที่จะไม่รับฟังความคิดด้านลบ คุณต้องเข้าใจว่า 80% ของผู้เล่นโป๊กเกอร์ เป็นผู้เล่นที่มีผลการเล่นติดลบ โป๊กเกอร์ก็เหมือนกับการขับรถ ทุกคนคิดว่าตัวเองเก่งมาก หรืออย่างน้อยก็ดีกว่าคนอื่น ดังนั้น มันจึงเป็นด้านลบทวีคูณ เมื่อคนส่วนใหญ่ที่ติดลบ แต่กลับมีอีโก้สูงในการยอมรับความผิดพลาด

แล้วจะเกิดอะไรขึ้น? หลายคนอิจฉา โกรธ และพูดตรงๆ ว่าพวกเขาไม่ค่อยชอบคุณเพราะความสำเร็จของคุณ แต่เราบอกคุณได้อย่างไม่ลังเลเลยว่าผู้เล่นโป๊กเกอร์ที่ดีที่สุดในโลก พวกเขาไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับพวกเขา และจดจ่อกับกับแผนการเล่นต่อไป

สรุปบทความ
การเป็นผู้เล่นโป๊กเกอร์มืออาชีพที่ประสบความสำเร็จต้องอาศัยทั้งความมุ่งมั่น การวางกลยุทธ์ และการควบคุมอารมณ์ การเข้าใจเกมอย่างลึกซึ้ง ฝึกฝนการอ่านไพ่และคู่ต่อสู้ รวมถึงการรักษาสมาธิแม้เผชิญคำวิจารณ์หรืออุปสรรค ล้วนเป็นสิ่งสำคัญ โปรดจำไว้ว่าความสำเร็จในระยะยาวไม่ได้มาจากโชคช่วย แต่เป็นผลจากการเรียนรู้ พัฒนาตัวเอง และมุ่งมั่นในเป้าหมายอย่างไม่ลดละ
เราหวังว่าคุณจะสนุกกับบทความนี้ และ หวังว่า N8TH จะสามารถช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเล่น เช่นเคย โปรดแสดงความคิดเห็นหรือส่งคำติชม เพื่อให้เราได้ปรับปรุงบทความให้ดีมากยิ่งขึ้น
ขอให้คุณประสบความสำเร็จในการเล่นโป๊กเกอร์ ที่ N8