
การนำแนวคิด SPR มาใช้เพื่อวางแผนการเล่น
หากคุณต้องการประสบความสำเร็จในการแข่งขันโป๊กเกอร์ คุณจะต้องมีอารมณ์ที่มั่นคง และ ความรู้-ความเข้าใจในเกม รวมถึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณวางแผนการเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดก็คือ SPR ย่อมาจาก Stack-to-Pot Ratio หรือ อัตราส่วนระหว่างชิปหน้าตัก ต่อ ชิปกองกลาง นั่นเอง
SPR ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าคุณควรเสี่ยงกับไพ่ที่คุณถืออยู่ได้มากเพียงใดเมื่อเทียบกับขนาดของชิปกองกลาง
การทำความเข้าใจแนวคิดนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้นเมื่อไพ่เปิดขึ้นที่บอร์ดแล้ว และ วางแผนสำหรับรอบ หรือ Street ต่อไปได้ง่ายขึ้น
ในบทความนี้ เราจะอธิบายว่า SPR คืออะไร? มีวิธีคำนวณอย่างไร? และ นำไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างไร? โดยมีหัวข้อต่างๆ ดังนี้
SPR คืออะไร?
SPR หรือ Stack-to-Pot Ratio เป็น แนวคิดหลักในการเล่นโป๊กเกอร์ที่นำอัตราส่วน ระหว่าง ชิปหน้าตัก เปรียบเทียบกับขนาดของ ชิปกองกลาง มาคำนวณให้ได้ค่าๆ หนึ่งเพื่อช่วยในการตัดสินใจ หรือ วางแผนการเล่น
สูตรการคำนวณ SPR:
SPR = ชิปหน้าตักที่น้อยที่สุดของผู้เล่นทุกคนที่เหลืออยู่ในการเล่น (Effective Stack) / ขนาดของชิปกองกลาง (Pot)
ตัวอย่าง : คุณอยู่ที่ตำแหน่ง Button มีแผนการที่จะขโมยบลายด์เมื่อผู้เล่นทุกคนก่อนหน้าคุณตัดสินใจหมอบไปหมดทุกคน คุณจึงเลือก Open-Raise แต่ผู้เล่นที่ตำแหน่ง Big-Blind ไม่ยอมหมอบ เลือกที่จะ Call ทำให้ขณะนี้่ มีชิปกองกลาง(Pot) อยู่ที่ 6.5bb คุณเหลือชิปหน้าตักอยู่ที่ 97bb และคู่ต่อสู้ของคุณมี 40bb ดังนั้น เรานำสูตรมาใช้ในการคำนวณได้เท่ากับ SPR = 40/6.5≈6.2 (เราเลือกนำ 40bb มาคำนวณ เพราะนั่นคือขนาดที่สามารถมีการเสีย หรือ ได้ ในการเล่นนี้ ที่เรียกว่า Effective Stack นั่นเอง)
ค่า SPR ในตัวอย่างนี้มีค่าเท่ากับประมาณ 6.2
นำ SPR มาแบ่งหมวดหมู่ หรือ กลุ่ม
เพื่อที่จะนำ SPR ที่ได้จากการคำนวณมาใช้ เราต้องทำการแบ่งเป็นหมวดหมู่ หรือ กลุ่ม ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็นสามช่วงหลักๆ ดังนี้
- SPR ต่ำ : คือ SPR ที่มีค่า น้อยกว่า <4 ลงมา
- SPR ปานกลาง : คือ SPR ที่มีค่า ระหว่าง 4-10
- SPR สูง : คือ SPR ที่มีค่า มากกว่า >10 ขึ้นไป
SPR มีค่าสูงมากเท่าใด คุณก็ยิ่งต้องการไพ่ที่แข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้นแปรผันตามค่าของ SPR เมื่อมีการเล่นจนถึง All-in
นำ SPR มาใช้ในการวางแผนการเล่นอย่างไร?
เมื่อเราคำนวณค่า SPR ได้แล้ว เราจะนำมาใช้วางแผนในการเล่นอย่างไร?
SPR จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าไพ่ของคุณมีความแข็งแกร่งพอที่จะยอมเสียชิปทั้งหมดของคุณ ในการเล่นหรือไม่ หรือที่เรียกว่า Pot-Commit เรีียนรู้เกี่ยวกับเรื่อง Pot-Commit ได้ในบทความเรื่อง “Pot-Commit ในโป๊กเกอร์หมายถึงอะไร?” ในเวปไซต์ N8 ของเรา
ด้านล่างนี้คือคำแนะนำ หรือ แนวทางเริ่มต้น สำหรับวางแผนที่จะ All-in ด้วย SPR ที่แตกต่างกัน
- SPR ต่ำกว่า <4 : คุณต้องการ Top-Pair ขึ้นไป ได้แก่ Over-Pair ,2 Pair ,Set , Straight ,Flush หรือ มี Draw ที่แข็งแกร่งเพื่อใช้ในการเล่นที่ SPR ต่ำนี้
- SPR ปานกลางที่มีค่าระหว่า 4-10 : คุณต้องการ 2 Pair ขึ้นไป Set ,Straight ,Flush ฯลฯ
- SPR สูง >10 : คุณต้องการไพ่ที่แข็งแกร่งที่สุด คือ Set ขึ้นไป Straight ,Flush ,Full-House ฯลฯ
สรุปก็คือ ยิ่ง SPR มีค่าสูงขึ้นมากเท่าใด ไพ่ของคุณก็ต้องแข็งแกร่งเพิ่มมาขึ้นเท่านั้นเมื่อต้อง All-in ในการเล่น
คำเตือน: ค่าเหล่านี้สามารถยืดหยุ่นได้ ขึ้นอยู่กับคู่ต่อสู้ของคุณ ซึ่งหากคู่ต่อสู้ของคุณเป็นผู้เล่นที่มักจะ All-in ด้วยไพ่ที่ไม่แข็งแกร่งบ่อยครั้ง นั่นหมายความว่าคุณอาจปรับการ Call All-in ของคุณ ให้มีค่าเพิ่มขึ้นมาได้อีกเล็กน้อย อย่างเช่น เมื่อคุณพบว่าคู่ต่อสู้มักจะ All-in ด้วยไพ่แย่ๆ หรือ Draw คุณอาจ เลือก Call ด้วย Top-Pair ที่ SPR ปานกลาง ประมาณ 6 ได้
SPR ในการเล่น 3-Bet
ในการเล่นหลังจากที่มีการ 3-Bet และ Call ของผู้เล่น นั่นหมายความว่า ชิปกองกลางจะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าปกติมาก ทำให้ SPR มักจะมีค่าต่ำ โดยทั่วไปค่าของ SPR ใน Pot ที่มีการ 3-Bet จะอยู่ที่ราวๆ 4 นั่นหมายความว่า คุณจะสามารถ All-in ใน 3-Bet Pot ได้จาก Top-Pair และ Over-Pair ได้อย่างง่ายดาย
แล้วไพ่ที่มีลุ้นที่ Flop อย่างเช่น Draw ?
ไพ่ที่ยังไม่ติดอะไรเลยในการเล่น 3-Bet Pot นั้นมีความยากกว่ามาก หาก SPR มีค่าอยู่ในระดับกลางๆ นั่นเป็นเพราะคุณอาจพบว่าคุณมีความคุ้มค่าที่จะ Call จากการคำนวณ Pot-Odd ตัวอย่างเช่น ลองนึกภาพว่าคุณ Check-Raise จากตำแหน่ง Big-Blind ด้วย Nut-Flush Draw และคู่ต่อสู้ของคุณ All-in
ดังนั้น เมื่อคุณพบว่า อัตราต่อรองที่ได้นั้นดี ด้วย Pot-Odd คุณก็สามารถ Call ได้โดยไม่ต้องคำนึงถึง SPR อีกต่อไป
SPR สามารถเพิ่มอัตราการชนะของคุณได้อย่างไร
SPR ช่วยให้คุณรู้สถานการณ์ในการเล่นระหว่างคุณกับคู่ต่อสู้ของคุณเสมอ ก่อนที่จะตัดสินใจใดๆออกไป นี่เป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญที่สุดแต่มักถูกมองข้ามในการเล่นโป๊กเกอร์ แม้แต่ผู้เล่นในระดับสูงบางครั้งก็มองข้ามสิ่งนี้ไป
วางแผนการเล่นโดยตรวจสอบชิปที่คู่ต่อสู้ของคุณมีอยู่เสมอ ทำการประมาณ SPR ล่วงหน้า นั่นทำให้คุณสามารถวางแผนการเล่นของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อพิจารณาโดยการนำ SPR มาใช้ในแผนการเล่นของคุณ นั่นหมายความว่า คุณสามารถ Exploit คู่ต่อสู้ ด้วยการ หมอบไพ่ Pocket ต่ำๆ หรือ ไพ่ที่ปกติคุณมักจะนำเข้าไปเล่น เช่น Connect-Suite ฯลฯ ได้เลย เมื่อคุณพบกับคู่ต่อสู้ที่ Open-Raise ด้วยชิปหน้าตักของเขาที่มีน้อยมากๆ ได้ทันที (<25 BB) เนื่องจาก ไพ่เหล่านี้สามารถนำเข้าไปเล่นได้ดีเมื่อ SPR อยู่ที่ 10 หรือสูงกว่า เหตุผลก็คือเมื่อคุณเข้าไปเล่นด้วยมือเหล่านี้ คุณต้องมีความสามารถที่จะชนะ และได้รับชิปตอบแทนกลับมามากพอเพื่อให้คุ้มค่ากับโอกาสที่เสียไปเมื่อคุณพลาดไม่ติดอะไร และ ต้องหมอบ
การปรับขนาด Raise-Size เพื่อควบคุม SPR
คุณสามารถปรับขนาด Raise-Size ของคุณได้เมื่อคุณพบว่า คู่ต่อสู้ของคุณมีชิปหน้าตักเหลือไม่มาก หรือ Short Stack
ตัวอย่างเช่น มาตรฐานของคุณเมื่อมีคู่ต่อสู้เข้ามาเล่นด้วยการ Limp คือ Raise 4bb ต่อ Limper หนึ่งคน แต่สำหรับผู้เล่นที่มีชิปหน้าตักเล็กๆ เราแนะนำให้เพิ่มขนาดขึ้น คำถามคือทำไม?
ผู้เล่นที่เล่นด้วยการ Limp มักจะไม่ค่อยปรับแผนการเล่นของพวกเขาตามขนาดการ Raise ของคุณ พวกเขาจะยังคง Call ด้วยความถี่เดิมที่เขาเล่นตามปกติ
ดังนั้น การเพิ่ม Raise-Size จะลด SPR ลง ทำให้การเล่นที่ Flop นั้นง่ายขึ้น
เมื่อคุณมีไพ่ที่แข็งแกร่ง เช่น Pocket-Pair ใหญ่ๆ ให้คุณ Isolate ผู้เล่นที่เป็น Limper ด้วยการ Raise ขนาด 6bb หรือมากกว่านั้น เนื่องจากคุณต้องการให้ SPR มีค่าต่ำที่สุด ยิ่ง SPR มีค่าต่ำเท่าไร ก็ยิ่งเป็นผลดีสำหรับไพ่ที่แข็งแกร่งของคุณ ซึ่งผลก็คือคุณจะสามารถ All-in ในการเล่นที่ Flop ได้ง่ายขึ้นมาก
คุณยังสามารถปรับขนาดที่ใช้ในการ 3-bet ของคุณได้ แทนที่จะใช้ 9-10bb ตามมาตรฐาน ให้ปรับไปใช้ขนาด 11-12 bb เมื่อจำเป็น หาก คู่ต่อสู้สามารถ Call การ 3-bet ของคุณได้ นั่นจะทำให้ SPR ในการเล่นที่ Flop จะมีค่าน้อยกว่า 4 (โดยสมมุตว่ามีชิปหน้าตักที่ 100bb) วิธีนี้ช่วยลดความซับซ้อนในการตัดสินใจในการเล่น Post-Flop ได้อย่างมาก
ข้อควรระวัง: สำหรับการ Open-Raise เราไม่แนะนำให้ Raise เกิน 3bb แม้ว่าขนาดที่มากขึ้นจะทำให้ SPR ลดลง แต่ก็บังคับให้ฝ่ายตรงข้ามเลือกไพ่ที่ดีเข้ามาเล่นกับคุณได้ดีขึ้น เขาจะ Tight ขึ้นและ Call 3-bet เฉพาะไพ่ที่สามารถเอาชนะคุณได้เท่านั้น
ข้อยกเว้นคือเมื่อมีผู้เล่นเป้าหมายที่คุณคิดว่าเขาคือผู้เล่นที่คุณสามารถเอาชนะได้ที่โต๊ะ ที่มักจะ Call ไม่ว่าจะ Open-Raise ด้วยขนาดใดก็ตาม ในกรณีนี้ คุณสามารถใช้ขนาดที่ใหญ่ขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์จากความผิดพลาดของพวกเขาได้
ในโป๊กเกอร์ คุณจะทำเงินได้โดยใช้ประโยชน์จากความผิดพลาดของฝ่ายตรงข้าม ไม่ใช่บังคับให้พวกเขาเล่นอย่างสมบูรณ์แบบ
วางแผนการเล่นอย่างชาญฉลาดและใช้ SPR เพื่อให้ได้เปรียบในการเล่นทุกครั้ง
เราหวังว่าคุณจะสนุกกับบทความนี้ และ หวังว่า N8TH จะสามารถช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเล่น เช่นเคย โปรดแสดงความคิดเห็นหรือส่งคำติชม เพื่อให้เราได้ปรับปรุงบทความให้ดีมากยิ่งขึ้น
ขอให้คุณประสบความสำเร็จในการเล่นโป๊กเกอร์ ที่ N8